ภาษีคือสิ่งที่รัฐบาลเรียกเก็บจากประชาชน เพื่อนำมาใช้บริหารและพัฒนาประเทศ ซึ่งการ ยื่นภาษีสรรพากร เป็นหน้าที่ของทุกคนไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นผู้มีรายได้ถึงเกณฑ์ที่จะต้องเสียภาษีหรือไม่ก็ตาม ก็จำเป็นที่จะต้องมีการยื่นภาษีเพื่อให้ทางรัฐบาลได้รู้ว่าท่านไม่หลีกเลี่ยงการเสียภาษี แต่ก็มีข้อยกเว้นว่าหากรายได้ต่อปีไม่ถึง 50,000 บาท ก็ไม่จำเป็นต้องยื่น โดยช่วงเวลาในการ ยื่นภาษีสรรพากร จะอยู่ระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคมของทุกปี โดยในปัจจุบันสามารถยื่นเสียภาษีออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากรได้ ทำให้สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ในกรณีที่จะไม่ ยื่นภาษีสรรพากร จะมีโทษปรับตามกฎหมาย ในกรณีไม่ได้ทำการยื่นแบบการเสียภาษีภายในระยะเวลาที่กำหนด
สิ่งที่ผู้เสียภาษีจะต้องรู้เมื่อต้อง ยื่นภาษีสรรพากร ก็คือการจัดเตรียมเอกสารในการยื่นภาษีทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลให้ครบถ้วนเพื่อให้ท่านไม่เสียสิทธิประโยชน์ในการยื่นภาษี ซึ่งการยื่นภาษีสำหรับบุคคลธรรมดาจะต้องจัดเตรียมเอกสาร ได้แก่ หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย หรือใบ 50 ทวิ จากนายจ้าง เป็นเอกสารที่ระบุว่าปีนั้นมีรายได้รวมเท่าไหร่ มีการหักชำระกองทุน หรือเงินทุนสำรองต่าง ๆ รายการลดหย่อนภาษีที่ได้รวบรวมไว้ตลอดทั้งปี เช่น ค่าเลี้ยงดูบิดา มารดา บุตร หรือคนพิการ จำนวนเงินที่ซื้อกองทุน หนังสือรับรองการชำระเบี้ยประกันชีวิต เบี้ยประกันสุขภาพ เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ เป็นต้น และจะต้อง ยื่นภาษีสรรพากร ให้ทันในระยะเวลาที่กำหนด แต่ถ้าพบว่าข้อมูลที่ยื่นภาษีไว้ไม่ถูกต้อง ท่านสามารถยื่นภาษีใหม่อีกครั้งได้ เพื่อให้ข้อมูลในการ ยื่นภาษีสรรพากร ถูกต้องและสมบูรณ์ที่สุด
ขั้นตอนในการ ยื่นภาษีสรรพากร นั้นสามารถยื่นได้ 2 ช่องทาง คือยื่นด้วยตนเองที่กรมสรรพากรพื้นที่สาขา และ ยื่นภาษีสรรพากร ทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ ในที่นี้เราจะกล่าวถึงการยื่นภาษีทางออนไลน์ของบุคคลธรรมดา ดังนี้
1. เข้าเว็บไซต์ของกรมสรรพากร เลือก ภงด 90 หรือ ภงด 91 สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยลงทะเบียนต้องลงทะเบียนยื่นภาษีก่อน และไปที่หน้า แบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
2. หากข้อมูลถูกต้องให้กดทำรายการต่อไป เลือกสถานะของผู้มีเงินได้
3. เลือกประเภทเงินได้ และค่าลดหย่อนการเสียภาษี หากเป็นมนุษย์เงินเดือนให้เลือกมาตรา 40(1) เงินได้จากการจ้างแรงงาน ได้แก่ เงินเดือน เบี้ยเลี้ยง และเงินที่ได้รับการลดหย่อน
4. กรอกรายการเงินเดือนค่าจ้างบำนาญต่าง ๆ โดยเอามาจากหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย กรอกในช่อง บันทึกจำนวนเงินที่สะสมตลอดปี ที่สำคัญต้องไม่ลืมเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้จ่ายเงินได้ ส่วนคนที่เปลี่ยนงานหรือออกจากงานระหว่างปีให้ขอเอกสารของที่ทำงานเก่าและที่ทำงานใหม่เพื่อนำมายื่นรวมกัน
5. บันทึกรายการค่าลดหย่อนที่เรามี กรอกใส่ทั้งหมด ตรวจสอบข้อมูลการคำนวณภาษี โดยระบบของกรมสรรพากรจะคำนวณให้อัตโนมัติ
6. หากข้อมูลทุกอย่างถูกต้องให้ทำการยืนยันเพื่อยื่นแบบภาษี
7. กดยืนยันการจ่ายเงินหรือตรวจสอบการคืนภาษี และเลือกช่องทางการชำระเงินที่ท่านสะดวกที่สุด
แต่ถ้าหากท่าน ยื่นภาษีสรรพากร ไม่ทันระยะเวลาที่กำหนดสามารถยื่นย้อนหลังได้และต้องเสียค่าปรับกฎหมาย
ภาษีอากร มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ โดยการจัดเก็บภาษีนั้นจะจัดเก็บจากบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่มีรายได้ และการจัดเก็บภาษีนั้นมีทั้งการจัดเก็บโดยตรงที่เรียกว่าภาษีทางตรง และภาษีทางอ้อม โดยผู้มีรายได้ทุกคนจะต้องมีการ ยื่นภาษีสรรพากร แม้รายได้จะไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียก็ตาม และจะต้องจัดเตรียมเอกสารในการยื่นให้ครบ โดยท่านสามารถยื่นภาษีได้ 2 ช่องทาง คือการยื่นที่กรมสรรพากรด้วยตนเองหรือยื่นผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งถ้าไม่ ยื่นภาษีสรรพากร ก็จะมีโทษตามกฎหมาย หากมีข้อสงสัยการ ยื่นภาษีสรรพากร สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลสรรพากรโทร 1161
ยื่นภาษีบุคคลธรรมดาครึ่งปี สำหรับผู้มีเงินได้ตามกฎหมายภาษีมาตรา 40(5) – (8)ตั้งแต่เดือนมกราคม - มิถุนายน โดยต้องยื่นเสียภาษีในระหว่างเดือนกรกฎาคม ถึง กันยายน ในปีภาษีนั้นๆ ทั้งนี้สามารถนำยอด ภ.ง.ด.94 มาหักตอนปลายปีได้สำหรับ ยื่นภาษีบุคคลธรรมดาครึ่งปี